นายวัลดิส โดมโบรฟสกิส นายกรัฐมนตรีลัตเวีย ประกาศแสดงความรับผิดชอบทางศีลธรรมและการเมือง ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเหตุการณ์หลังคาซูเปอร์มาร์เก็ตแม็กซิมา ถล่มเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตถึง 54 ราย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการทรุดตัวดังกล่าวได้ แม้เบื้องต้นจะคาดว่าเป็นเพราะการต่อเติมอาคารผิดแบบ
นอกจากนี้ นายโดมโบรฟสกิส ยังกล่าวถึงภาระหน้าที่ของรัฐบาลนับจากวันนี้ด้วยว่า จำเป็นต้องเร่งเยียวยาครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต เร่งสืบสวนหาสาเหตุของอาคารถล่ม ตลอดจนทบทวนระบบการก่อสร้างในประเทศให้รอบด้าน ขณะเดียวกัน แม้เขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกในปีหน้า แต่ก็จะยังคงทำงานการเมืองต่อไป
นายแดเนียลส์ พาฟลุตส์ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ ก็เป็นอีกบุคคลที่ถูกวิจารณ์จากอุบัติเหตุนี้เช่นกัน เนื่องจากโครงการต่อเติมอาคารควรถูกตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจากรัฐบาลเสียก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลลัตเวียได้เตรียมการปรับปรุงเศรษฐกิจ และค่าเงินเพื่อเข้าสู่ยูโรโซน และได้ตัดลดงบประมาณส่วนหนึ่ง ด้วยการยกเลิกหน่วยงานตรวจสอบอาคารแห่งชาติ
นายโดมโบรฟสกิสเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลัตเวียในปี 2552 และได้บริหารประเทศผ่านช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ จนสามารถเข้าสู่ยูโรโซนได้ในที่สุด โดยลัตเวียจะเริ่มใช้เงินสกุลยูโรในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า การลาออกของหัวหน้าฝ่ายบริหารจะไม่กระทบต่อการใช้เงินสกุลยูโร รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ แม้ว่าจากผลสำรวจแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ลัตเวียใช้เงินสกุลเดียวกับสหภาพยุโรปที่เหลือก็ตาม
ล่าสุด ลัตเวียกำลังกลายเป็นประเทศที่ 18 ในยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโร โดยเศรษฐกิจของประเทศมีการขยายตัวสูงที่สุดนับตั้งแต่ประสบปัญหาวิกฤติการเงินเมื่อปี 2551 ซึ่งการตัดลดงบประมาณต่าง ๆ จนทำให้จีดีพีของประเทศหายไปถึง 1 ใน 5 นั้น ทำให้หนี้
สาธารณะของลัตเวีย ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 41 ของจีดีพี
28 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08:07 น.
-ขอบคุณที่มา | www.voicetv.co.th